สวัสดีค่ะสาวๆ ครั้งนี้เปิ้ลจะมารีวิว “แป้งผสมรองพื้น” ปกติแล้วก่อนหน้านี้เป็นคนชอบทารองพื้นและ CC cream เท่านั้น แล้วช่วงนี้ตื่นสายบ่อยแล้วมีเวลาแต่งหน้าออกจากบ้านน้อยมากๆ เปิ้ลเลยลองซื้อแป้งผสมรองพื้นมาใช้ดู แล้วผลที่ได้รับคือปลาบปลื้มมว๊ากกก!! ปกปิด หน้าเนียน และเร็วทันใจเว่อร์ มาดูกันเลยดีกว่าเปิ้ลชอบใช้ตัวไหนกันมั่งในช่วงนี้ ^^
แป้งผสมรองพื้น ครั้งนี้ที่จะมารีวิวมีทั้งหมด 3 ตัว ด้วยกันเลย ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าเปิ้ลเป็นคน “สีผิวขาว-เหลือง” และเป็นคนผิวผสมค่ะ
1. LIV : White Diamond Flawless Powder
แป้งตัวนี้เปิ้ลลองไปโดนมาเห็นมีโปรโมชั่นมาพอดีที่เฟสบุ๊ค LIV จาก 990 บาท เหลือ 690 เพราะเห็นแพคเกจและส่วนผสมนี้ล่ะ เห็นแล้วถูกใจสุดๆ เจ้าแป้งผสมรองพื้นตัวนี้เขาบอกว่ามีส่วนผสมของเพชรแท้ ช่วยเกราะป้องกันผิว และยังบำรุงผิวไปในตัว สีที่เลือกมาคือสี 01 Ivory ช่วยปกปิดริ้วรอยสิวต่างๆ และใต้ตาคล้ำด้านล่างได้ดี ควบคุมความมัน
แพคเกจสวยหรู ดูเหมือนเพชรจริงๆ เปิดมาจะเห็นแป้งอยู่ข้างใน ส่วนพัฟฟองน้ำอยู่ชั้นล่าง น้ำหนักเบาถือถนัดมือค่ะ แพคเกจที่พกไปไหนก็ดูดี ดูคุณหนูสุด!! ปลื้ม
เรามาลองทาแป้งกันให้เห็นชัดๆ เลยดีกว่าว่าปกปิดมาน้อยกันขนาดไหน! เมื่อทาแป้งผสมรองพื้น LIV ลงจะเห็นได้ชัดว่าปกปิดค่อยข้างมากเลยทีเดียว เมื่อทาลงใบหน้ากลบสิวได้เกือบมิด และดูเนียนขึ้นได้ชัดเจนสีของแป้งจะเข้มว่าผิวจริงเล็กน้อย แต่ทิ้งไว้สักพักจะเซ็ตตัวเหมือนสีผิวจริงเราค่ะ ไม่รู้สึกหนักหรือหนาเลยสักนิดเดียว
ระหว่างวันตอนใช้ : หลังจากทาตั้งแต่เช้าประมาณ 6 โมง ตอนกลางวันยังไม่มีปัญหาหน้ามัน แต่ตกเย็นเริ่มมันนิดๆ หน่อยจึงค่อยหยิบแป้งมาตบอีกที ถือว่าโอเคเลยค่ะ คุ้มค่ากับราคา
กลิ่น : ค่อนข้างหอม ไม่เหมือนแป้ง
2. M.A.C Studio Fix
ใครๆ ต่างต้องรู้จักแป้งของ M.A.C แน่นอนเพราะตระกูล Studio Fix ดังเรื่องรองพื้น และแป้งผสมรองพื้น เปิ้ลใช้สี NC20 สำหรับสาวผิวขาวเหลือง ราคา 1,600 บาท ที่เคาร์เตอร์แบรนด์ ที่มีส่วนผสมของรองพื้นปกปิดรอยคล้ำต่างๆ แทนรองพื้น ช่วยควบคุมควบมันเบาบางตรงกับสีผิวเราจริงๆ
เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าเมื่อทาลงไปบนผิว สีแป้งค่อนข้างเหมือนสีผิวจริง และเนื้อแป้งเบาบางมาก ไม่ค่อยปกปิดเท่าตัว LIV แป้งผสมรองพื้นตัวแรก ถ้าจะกลบสิวหรือใต้ตาดำควรใช้คอนซีลเลอร์ทับอีกทีค่ะ
ระหว่างวันตอนใช้ : ช่วงเช้าใบหน้าเรายังสวยอยู่ แต่พอกลางวันจะเริ่มตกร่องมุมต่างๆ และมีความมันเล็กน้อย ช่วงเย็นก็จะมันสุดๆ เลยค่ะ ควรพกแป้งฝุ่นไปด้วยในกระเป๋า
กลิ่น : ไม่ค่อยมีกลิ่นใดๆ
3. Covermark : Jusme Color Powdera Foundation
แป้งตัวนี้เปิ้ลได้มาจากคุณแม่ค่ะ คุณแม่ซื้อมาให้เลยลองใช้ดูคือติดใจมาก เนื้อดีบางเบา คุมมันได้ดีระดับนึงเลย ปกติจะใช้เมื่อตอนเร่งรีบแต่งหน้าออกจากบ้าน หรือหลังจากทารองพื้นเสร็จก็ใช้ตัวนี้ตบๆ ลงเฉพาะบริเวณสิวเท่านั้น
แพคเกจแอบใหญ่ไปนิดนึงเพราะว่ามันเป็นแนวยาว เวลาพกก็จะกินที่กระเป๋าค่อนข้างเยอะกว่า ตลับอื่นๆ แต่มีความแบน ไม่ได้หนาเทอะทะจนเกินไป
หลังจากที่ตบแป้งไปประมาณหลายครั้งมากๆ จริงๆ นะ ให้การปกปิดค่อนข้างน้อยกว่าตัวอื่นๆ แต่ว่าเจ้าแป้งตัวนี้ก็จะได้งานผิว สีเหมือนผิวเราจริงๆ เราที่มีสิวหรือจุดด่างดำที่ต้องกลบเยอะเยอะนำว่าต้องใช้คอนซีลเลอร์เป็นตัวช่วยอีกแรงค่ะ
ระหว่างวันตอนใช้ : หลังจากที่ใช้ไปทั้งวันช่วงกลางวัน – เย็น ใบหน้าไม่ค่อยมันเลย มันน้อยอาจมีบาง แต่พวกรอยสิวหรือรอยจุดด่างดำเริ่มหลุดหายไป ก็ต้องหยิบขึ้นมาเติมใหม่
กลิ่น : มีกลิ่นแป้งอ่อนๆ
สรุปหลังใช้เลยค่ะเจ้าแป้ง 3 ตัวนี้
1. เรื่องคุมความมัน :
– LIV : คะแนน 4.2 /5
– M.A.C : คะแนน 4 /5
– COVERMARK : คะแนน 3.5 /5
2. เรื่องแพคเกจ
– LIV : คะแนน 5 /5
– M.A.C : 4.5 /5
– COVERMARK : คะแนน 4 /5
3. เรื่องการปกปิด
– LIV : คะแนน 4.5 /5
– M.A.C : คะแนน 4 /5
– COVERMARK : คะแนน 4 /5
หวังว่าบทความของเปิ้ลนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ เพราะว่าแป้งผสมรองพื้นปาดทีเดียวมั่นใจได้เลยทันที แบบไม่ต้องใช้เวลาเกลี่ยนานเหมือนรองพื้นแบบน้ำ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่เคยลองใช้ อยากแนะนำให้ลองใช้ดูรับรองว่าติดใจแน่นอนพกออกจากบ้าน หน้าเนียนกริ๊บบบ..สวยเด้ง ตลอดเวลา
สามารถมาพูดคุยใน facebook fanpage กันได้นะคะที่ www.facebook.com/theaapplestyle